วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

โรงเรียนวัดสุทธาราม

PERSONAL PRONOUN

Personal Pronoun
                Personal Pronoun แปลว่า “บุรุษสรรพนาม” มีไว้สำหรับแทนชื่อจริงของผู้พูด, แทนชื่อจริงของผู้ฟัง, และแทนชื่อจริงของบุคคลหรือสัตว์, สิ่งของ ที่เราเอ่ยถึงบุรุษสรรพนาม แบ่งออกเป็น 2 พจน์ และ 3บุรุษได้ดังนี้
เอกพจน์
พหูพจน์
บุรุษที่ 1 : I (ฉัน, ผม)
              - ใช้แทนชื่อผู้พูดคนเดียว
We (พวกเรา, เรา)
       - ใช้แทนชื่อผู้พูดหลายคน
บุรุษที่ 2 : We (พวกเรา, เรา)
               - ใช้แทนชื่อผู้ที่เราพูดด้วยคนเดียว
You (พวกคุณ, พวกท่าน)
        - ใช้แทนชื่อผู้ที่เราพูดด้วยหลายคน
บุรุษที่ 3 : HE (เขา)
              - ใช้แทนชื่อผู้ชายคนเดียวที่เราพูดถึง
              : She (หล่อน, เธอ)
              - ใช้แทนชื่อผู้หญิงคนเดียว      
              : It (มัน)
              - ใช้แทนชื่อสัตว์, สิ่งของ และสถานที่ที่เราพูดถึง
                 สิ่งเดียว, อันเดียว                                                         


They (พวกมัน, พวกเขา)
              - ใช้แทนชื่อผู้ที่เราพูดถึงหลายคน หลายสิ่งและ    
        หลายสถานที่


                นอกจากนี้แล้ว Personal Pronoun ยังแจกออกไปได้อีก 5 รูป ตามหน้าที่การใช้ไวยากรณ์ คือ
Nominative Case
(ใช้เป็นประธาน)
Accusative Case
(ใช้เป็นกรรม)
Possessive
Adjective
(คุณศัพท์เจ้าของ)
Possessive
Pronoun
(สรรพนามเจ้าของ)
Reflexive
(เน้น, ย้ำ)
I
We
You
He
She
It
They
me
us
you
him
her
it
them
my
our
your
his
her
its
their
mine
ours
yours
his
hers
its
theirs
myself
ourselves
yourself, -ves
himself
herself
itself
themselves
                                 หน้าที่ของ Personal Pronoun ดังต่อไปนี้

Personal Pronoun รูปที่ 1 ได้แก่ I, We, You, He, She, It, และThey ใช้ทำหน้าที่ดังต่อไปนี้
                1. ใช้ทำหน้าที่เป็นประธาน (Nominative Case) ของกริยาในประโยค เช่น
- I know everything from him.    (ผมรู้ทุกสิ่งจากเขา)
- You can speak English.                 (คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี)
- They like to play football after class.      (พวกเขาชอบเล่นฟุตบอลหลังเลิกเรียน)
(I, You, He, และ They ทำหน้าที่เป็น Nominative Case ในประโยค)
                2. ใช้ทำหน้าที่เป็นส่วนสมบูรณ์ของกริยา (Subjective Complement) ซึ่งส่วนมากจะวางตามหลัง Verb to be เสมอ เช่น
                - It is I who can speak English.            (ผมเองเป็นผู้พูดภาษาอังกฤษได้)
Personal Pronoun รูปที่ 2 ได้แก่ me, us, you, Him, her, it, และ them ใช้ทำหน้าที่ดังต่อไปนี้
                1. ใช้ทำหน้าที่เป็นกรรม (object) ของกริยาในประโยคได้ เช่น
                - The teacher watched us playing football.        (คุณครูดูเราเล่นฟุตบอล)
                -We love them very much.   (พวกเรารักเขามากๆ)
                2. ใช้ทำหน้าที่เป็นกรรม (object) ของ Preposition ได้ เช่น
                - She is very pleased to stay with him.               (หล่อนดีใจมากที่พักอยู่กับเขา)
                - Suda is friend of mine.       (สุดาเป็นเพื่อนของฉัน)
                3. ใช้ทำหน้าที่เป็นประธานของ Infinitive ได้ เช่น
                - I told her to study English at one.     (ฉันบออกหล่อนให้รีบเรียนภาษาอังกฤษเอาไว้)
                *(her เป็นประธานของ to study)
                - Sodsri told him to wait for her.         (สดศรีบอกเขาให้รอเธอก่อน)
                *(him เป็นประธานของ to wait)
Personal Pronoun รูปที่ 3 ได้แก่ my, our, your, his, her, its, และ their ใช้ทำหน้าที่ดังต่อไปนี้
                1. บุรุษสรรพนามกลุ่มนี้ ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ จึงต้องวางอยู่หน้าคำนามเท่านั้น เช่น
                - This is my car.    (นี่คือรถยนต์ของฉัน)
                *(my ทำหน้าที่เป็น adjective ประกอบคำนาม car เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ)
Personal Pronoun รูปที่ 4ได้แก่ mine, ours, yours, his, hers, its, และ theirs ใช้ทำหน้าที่ดังต่อไปนี้
                1. เป็นประธานของประโยค(Subject of a Verb) แต่ต้องมีการกล่าวถึงคำนั้นมาก่อน เช่น
                - Your friend is Indian, mine is American.   (เพื่อนของคุณเป็นคนอินเดีย ของฉันเป็นอเมริกา)
                *(mine เป็น Possessive Pronoun มาทำหน้าที่เป็นประธานของ is)
                2. เป็น(Subjective Complement)ส่วนเติมเต็มประธานของประโยคให้มีความหมายสมบูรณ์ และส่วนมากจะเรียงตามหลัง Verb to be เช่น
                - This ruler is his, that one is hers.     (ไม้บรรทัดอันนี้เป็นของเขา อันนั้นเป็นของหล่อน)
                *(his และhers ทำหน้าที่เป็นส่วนสมบูรณ์ของกริยา is)
                3. เน้นความเป็นเจ้าของ(Double Possessive) แต่ต้องวางตามหลังบุพบท of อีกทีหนึ่ง ตามสูตรวลีสำเร็จรูปดังนี้ a + noun + of + Possessive Pronoun เช่น
- a friend of mind = one of my friends.              (เพื่อนคนหนึ่งของฉัน)
- a pen of hers.      (ปากกาด้ามหนึ่งของหล่อน)
Personal Pronoun รูปที่ 5ได้แก่ myself, ourselves, yourself, -ves, himself, herself, itself, และ themselves ใช้ทำหน้าที่ดังต่อไปนี้
                1. วางไว้หลังประธานเพื่อเน้นว่าประธานเป็นผู้กระทำเอง (หรือจะวางไว้ท้ายประโยคก็ได้) เช่น
                - She herself  did  it. = She did it herself.        (เธอทำด้วยตังของเธอเอง)
                2. วางไว้หลังกริยาที่กระทำต่อตัวประธานเอง เช่น
                - He hurts himself.               (เขาทำให้ตัวเองบาดเจ็บ)
                3. วางไว้หลังบุพบท ทำหน้าที่เป็นกรรมของบุพบท เช่น
                - He thinks of herself  for a while.     (เขาคิดถึงตัวเองชั่วขณะหนึ่ง)
                4. วางไว้หลัง by เพื่อแสดงว่าประธานเป็นผู้กระทำเองโดยลำพัง เช่น
- Wanchai did it by himself.                                (วันชัยทำงานนั้นด้วยตัวเขาเอง)
             ********************************************************************
POST-TEST  :  Choose the best answer.
1. It is ............. who am the owner of his house.
a. you                      b. it                         c. I                           d. me
2. Who is that? It’s………………………..
a. I                           b. me                       c. mine                   d. myself
3. Your pen is red,…………… is black.
a. mine                   b. I                           c. me                       d. myself
4. That’s not my umbrella. …………. is red.
a. your                     b. me                       c. mine                   d. I
5. The book is …………………
a. your                     b. yours                   c. yourself              d. you
6. David has the habit of talking to………………
a. him                     b. me                       c. his                       d. himself
7. I was a good friend of……………..
a. yours                   b. they                     c. me                       d. her
8. That house was painted in green but……………… roof was red.
a. its                        b.it                          c. itself                   d. it’s
9. ……………. Are likely to be forgotten
a. they                     b. its                        c. their                    d. theirs
10. There was an argument between…………… and …………….
a. he-I                     b. his-mine             c. him-me               d. him-himself
11. It is…………….. who likes sugar in her tea.
a. me                       b. I                           c. her                       d. she
12. The farmhouse stands ………………. You want to buy is mine.
a. itself                   b. its                        c. it                         d. by itself
13. He asked …………. to work with him.
a. she                      b. her                       c. me                       d. him
14. We love …………… very much.
a. them                   b. they                     c. she                      d. he
15. I love you more than…………..
a. she                      b. them                   c. her                       d. its

                       ………………………………………………      GOOD LUCK
                                  


เฉลยแบบฝึกหัด
1.c                           2.b                           3.a                           4.c                           5.b
6.c                           7.a                           8.a                           9.a                           10.d
11.d                         12.d                         13.c                         14.c                         15.c

วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2555

มารู้จักกับ "Noun" กันเถอะ


ก่อนจะเริ่
มพูดเริ่มเขียนภาษาอังกฤษ เราควรจะมาทำความรู้จักกับพื้นฐานของรูปแบบประโยคในภาษาอังกฤษกันก่อน และก่อนที่จะรู้จักกับรูปแบบพื้นฐานของประโยค เราก็ควรจะทำความรู้จักชนิดของคำก่อนด้วย
เอาเป็นว่าเตรียมปากกา กระดาษ และสมาธิไว้ดีๆ ให้เริ่มเรียนกันได้เลย
ชนิดของคำแบบแรกที่จะสอนวันนี้ ก็คือ คำนาม หรือในภาษาอังกฤษเรียกว่า noun ออกเสียงว่า ‘นาว’ ในดิกชันนารี่ (dictionary) มักจะระบุตัวย่อเป็น n.
noun คืออะไร?  คำที่ใช้เรียกชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ อาคาร สภาพ และลักษณะทั้งสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิต ทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม

มาดูตัวอย่างง่ายๆ ของ noun กันดีกว่าว่ามีคำว่าอะไรบ้าง:
ปากกา ดอกไม้ มหาวิทยาลัย ความซื่อสัตย์ เวลา การเรียน การประปา ความสวย ความคิด นักเรียน ฯลฯ

เอ้า ... มาลองกันก่อนดีกว่า ว่าเรารู้จักคำนามกันหรือยัง ทดสอบซิ!  (^_^) v
คำว่า ”skirt - กระโปรง”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”heart - หัวใจ”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ” office - ที่ทำงาน”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”seminar – การสัมมนา”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”travel – ท่องเที่ยว”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
แล้วถ้าเป็น ”traveling - การท่องเที่ยว”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”วิ่ง”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
แล้วถ้าเป็น ”การวิ่ง”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
แล้วถ้าเป็น ”วิธีวิ่ง”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”important - สำคัญ”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
คำว่า ”folder - แฟ้ม”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”feel - รู้สึก”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
คำว่า ”feeling - ความรู้สึก”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!
คำว่า ”beautiful – สวย”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  No!
คำว่า ”beauty – ความสวย”  เป็น noun หรือไม่?  ……  …..  …. …  ..  .  Yes!

ตอบถูกไปกี่ข้อเอ่ย... ยังไงก็ปรบมือให้ตัวเองนะคะ
และน่าจะพอเข้าใจแล้วนะคะ ว่าอะไรคือ noun ...
วิธีฝึกอีกอย่างก็คือ อาจจะลองนึกๆ ไปแล้วลองเขียนไว้ว่า คำไหนคือ noun บ้าง
จะส่งมาให้เราเช็คให้ก็ได้ หรืออยากลองเช็คใน dictionary ดูก็ได้ค่ะ

เอ้า มาเรียนกันต่อ ...
ในภาษาอังกฤษจะแบ่ง noun ออกเป็น คำนามนับได้ (Countable Nouns) และ คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Nouns)  ค่ะ
Countable Nouns คืออะไร? คำนามที่นับได้ง่ายๆ ก็คือ คำนามที่สามารถนับเป็นหน่วยได้ด้วยตัวของมันเองค่ะ เช่น glass (แก้ว) สามารถนับได้เป็น 1 ใบ 2 ใบใช่ไหมคะ แบบนี้แหละค่ะ ที่เรียกว่า Countable Nouns  ซึ่งจะมีอยู่ในรูปเอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural) ค่ะ
มาดูตัวอย่างของ Countable Nouns เพิ่มเติมอีกหน่อยดีกว่านะคะ
table (โต๊ะ)  chair (เก้าอี้)  ง่ายไปมั้ย ...? เอาคำยากๆ มาเรียนด้วยดีกว่านะคะ
  ๐ Countable Nouns แบบมีตัวตน เช่น
        Dollar (เงินหน่วยดอลล่าร์)
        Coin (เหรียญ)
        Suitcase (กระเป๋าเดินทาง)
        Bookshelf (ชั้นวางหนังสือ)

  ๐ Countable Nouns แบบไม่มีตัวตน เช่น
        Day (วัน)
        Month (เดือน)
        Year (ปี)
        Action (การกระทำ)
        Feeling (ความรู้สึก)


Uncountable Nouns คืออะไร? คำนามนับไม่ได้นั่นก็คือ คำนามที่ไม่สามารถนับเป็นหน่วยด้วยตัวของมันเองได้ มีต้องใช้วัตถุใดๆ หรือหน่วยอื่นๆ มาในการใช้วัด หรือตวง รวมถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมอื่นๆ ด้วยเช่น
  ๐ Uncountable Nouns แบบมีตัวตน เช่น
        Furniture (เฟอร์นิเจอร์)
        Luggage (หีบห่อเดินทาง)
        Rice (ข้าว)
        Sugar (น้ำตาล)
        Water (น้ำ)
        Gold (ทอง)

  ๐ Uncountable Nouns แบบไม่มีตัวตน เช่น
        Music (ดนตรี)
        Love (ความรัก)
        Happiness (ความสุข)
        Knowledge (ความรู้)
        Advice (คำแนะนำ)
        Information (ข้อมูล)

คราวนี้เรามาลองทำแบบฝึกหัดกันดีกว่าค่ะ
คำๆ ไหนเป็น Countable Nouns ให้เขียนแทนด้วย C
คำๆ ไหนเป็น Uncountable Nouns ให้เขียนแทนด้วย U

   _____ milk
   _____ bear
   _____ shadow
   _____ blood
   _____ spoon
   _____ calcium
   _____ tree
   _____ truck
   _____ airplane
   _____ mirror
   _____ goodness
   _____ honest
   _____ messenger
   _____ cardigan
   _____ shoe
   _____ tooth
   _____ celebration
   _____ payment
   _____ subsidiary
   _____ affiliate
   _____ demonstration


.

..

...

ทำเสร็จแล้วใช่มั้ยคะ ... งั้นมาดูเฉลยกันเลย

...

..

.

   __U__ milk
   __C__ bear
   __U__ shadow
   __U__ blood
   __C__ spoon
   __U__ calcium
   __C__ tree
   __C__ truck
   __C__ airplane
   __C__ mirror
   __U__ goodness
   __U__ honest
   __C__ messenger
   __C__ cardigan
   __C__ shoe
   __C__ tooth
   __U,C__ celebration
   __U,C__ payment
   __C__ subsidiary
   __C__ affiliate
   __U,C__ demonstration

Remarks: คำนามบางคำ เป็นได้ทั้งรูป uncountable และ countable ค่ะ ขึ้นอยู่กับความหมายที่ใช้ ซึ่งเราสามารถเช็คความหมายได้จาก dictionary นะคะ
เช่นคำว่า celebration ที่สามารถเป็นได้ทั้ง Uncountableและ Countable ในความหมายของรูปแบบ Countable คือ งานเฉลิมฉลอง ซึ่งสามารถนับได้ แต่หากเป็น Uncountable แล้ว จะมีความหมายถึงการเฉลิมฉลอง (การแสดงออกถึงการดฉลิมฉลอง) แบบนี้ก็นับไม่ได้ เป็นต้น
อยากทราบว่าคำไหนเป็นคำนามที่นับได้ หรือไม่ได้ เราสามารถเช็คได้จาก dictionary ได้เลยค่ะ เว็บไซต์ของ Oxford Dictionary มีให้บริการเช็คความหมายได้ผ่านเว็บที่ http://www.oup.com/elt/catalogue/teachersites/oald7/?cc=global  โดยให้ประเภทของคำ ความหมาย วิธีการใช้มาละเอียดเลย


หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ ที่มา http://www.englishub.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=5373415&Ntype=18

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Gerund

. ตัวอย่าง Verb ที่ตามด้วย Gerund

admit (ยอมรับ)
anticipate (มุ่งหวัง)
appreciate (ซาบซึ้ง)
avoid (หลีกเลี่ยง)
compare (เปรียบเทียบ)
complete (ทำเสร็จ)
confess (สารภาพ)
consider (พิจารณา)
delay (ทำให้ช้า)
deny (ปฏิเสธ)
detest (รังเกียจ)
discuss (สนทนา)
dislike (ไม่ชอบ)
enjoy (สนุกสนาน)
escape (หลบหนี)
excuse (แก้ต่าง)
fancy (นึกฝัน, จินตนาการ)
finish (เสร็จ, สำเร็จ)
forgive (ให้อภัย, ยกโทษ)
imagine (จินตนาการ)
involve (เกี่ยวข้อง)
mention (กล่าวถึง)
mind (รังเกียจ)
miss (พลาด)
practice (ฝึกฝน)
postpone (เลื่อน, ผลัด)
recognize (จำได้)
recollect (ย้อนระลึก)
report (รายงาน)
resent (ขุ่นเคือง)
resist (ต้านทาน)
risk (เสี่ยง)
suggest (แนะนำ)
stand (อดทน)
stop (หยุด)
tolerate (อดทน)

            
            หมายเหตุ Verb เหล่านี้ สามารถนำไปใช้กับ Noun (คำนาม) ได้เช่นกัน
           
             ตัวอย่าง   They admitted cheating on their test. (พวกเขายอมรับว่าโกงข้อสอบ)
                           Do you mind picking up the phone? (คุณช่วยรับโทรศัพท์ให้หน่อยได้ไหม)
                           I completed filling out the form. (ฉันกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว)
2. ตัวอย่าง Adjective (คุณศัพท์) ที่ตามด้วย Gerund

afraid of (กลัว)
fond of (ชอบที่จะ)
angry about / at (โกรธ)
interested in (สนใจใน)
bad at (ไม่ถนัด ,ไม่ดี)
proud of (ภูมิใจกับ)
busy (ยุ่ง)
sick of (เบื่อที่จะ)
clever at (ฉลาด,เก่ง)
sorry about (เสียใจกับ)
crazy about (บ้าคลั่ง)
tired of (เหนื่อยใจกับ)
disappointed about (ผิดหวังเกี่ยวกับ)
worried about (กังวลเกี่ยวกับ)
excited about (ตื่นเต้นเกี่ยวกับ)
worth (มีคุณค่า,สมควรแก่)
famous for (มีชื่อเสียงใน)


            
             หมายเหตุ Adjective เหล่านี้ สามารถนำไปใช้กับ Noun (คำนาม) ได้เช่นกัน

              ตัวอย่าง   I’m afraid of diving. (ฉันกลัวการดำน้ำ)
                            He is busy doing his job. (เขากำลังยุ่งอยู่กับงานของเขา)
                            I’m crazy about reading comic books (ฉันบ้าคลั่งกับการอ่านหนังสือการ์ตูน)
3. ตัวอย่าง Preposition (บุพบท) ที่ตามด้วย Gerund

about (เกี่ยวกับ)
by (โดย)
after (หลังจาก)
in (ใน)
apart from (นอกเหนือจาก)
instead of (แทนที่จะ)
at (ที่)
on (บน)
because of (เนื่องจาก)
without (ปราศจาก)
before (ก่อนหน้า)


            
             หมายเหตุ Preposition เหล่านี้ สามารถนำไปใช้กับ Noun (คำนาม) หรือ Verb ในรูปแบบอื่นๆได้เช่นกัน
            
              ตัวอย่าง   After fishing, we had a dinner together. (หลังจากตกปลาเสร็จ เราก็ได้ทานอาหารเย็นด้วยกัน)
                            I went to the shopping mall without telling mom. (ฉันไปเดินห้างโดยไม่บอกให้แม่รู้)
4. ตัวอย่างคำและประโยคอื่นๆ ที่ตามด้วย Gerund

accuse of
forget about (ลืมเกี่ยวกับ)
agree with
give up (ล้มเลิก)
apologize for
have a …. (good/bad/hard/difficult/etc.) time
approve of (เห็นด้วยกับ)
have problem/trouble/difficulty (มีปัญหา,มีความลำบาก)
believe in
insist on (ยืนกราน)
blame for
It’s no use / It’s no good (ไม่มีประโยชน์)
can’t bear / can’t stand (ทนไม่ได้)
Keep / keep on (ทำต่อไป, คงไว้)
can’t help / can’t resist (อดไม่ได้)
put off (เลื่อน)
carry on / go on (ทำต่อไป)
prevent from (ป้องกัน)
complain about (บ่น)
rely on (วางใจ)
concentrate on (จดจ่อ)
succeed in (ประสบความสำเร็จใน)
congratulate on (ยินดีกับ)
specialize in (เชี่ยวชาญใน)
cope with (รับมือกับ)
stop from (หยุด)
decide against (ตัดสินใจ)
talk about/of (พูดคุยเกี่ยวกับ)
depend on (ขึ้นอยู่กับ)
think of (คิดถึง)
dream about/of (ฝันถึง)
warn against (เตือน)
feel like (รู้สึกอยากจะ)
worry about (กังวลเกี่ยวกับ)

            
             หมายเหตุ คำหรือประโยคเหล่านี้ เหล่านี้ สามารถนำไปใช้กับ Noun (คำนาม) ได้เช่นกัน
5. เรามักใช้ Gerund ตามหลังคำหรือประโยคเหล่านี้ แม้ว่าหลังคำหรือประโยคเหล่านี้จะมี “to” ก็ตาม

accustomed to (ชิน,คุ้นเคยกับ)
object to (คัดค้านต่อ)
confess to (สารภาพ)
used to (ชิน,คุ้นเคยกับ)
look forward to (ตั้งหน้าตั้งตารอคอย)
opposed to (คัดค้านต่อ)

            
              ตัวอย่าง   I look forward to seeing you soon. (ฉันตั้งหน้าตั้งตาคอยวันที่จะได้พบคุณในเร็ววัน)
Tips: โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะใช้ Gerund เมื่อเราต้องการพูดถึงการกระทำต่างๆ (actions)โดยอาศัยหลักการนำ Verb มาเปลี่ยนให้เป็น Noun นั่นเอง